วันอังคารที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2559

ฮับ (HUB)

     ฮับทำหน้าที่เป็นตัวกลางสำหรับการเชื่อมโยงเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์เครือข่ายอื่นๆเข้าด้วยกัน ลักษณะภายนอกของตัวฮับประกอบด้วยพอร์ต RJ-45 (ฮับบางรุ่นจะมีพอร์ตไฟเบอร์ด้วย) ซึ่งจะใช้เป็นจุดต่อสายสัญญาณไปยังแลนการ์ดของเครื่องคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อื่นๆบนระบบ ความเร็วการรับส่งข้อมูลของฮับมีตั้งแต่ 10 Mbps และ 100 Mbps ฮับขนาดเล็ก (Small HUB)ฮับขนาดเล็กจะมีจำนวนพอร์ต RJ-45 ประมาณ 4,5,8 ,12 และ 16 พอร์ตแล้วแต่รุ่น ฮับขนาดเล็กนี้เหมาะสำหรับใช้งานในระบบเครือข่ายขนาดเล็กที่มีเครือจำนวนเครื่องคอมพิวเตอร์ไม่มากประมาณ 3 -16 เครื่อง หากคุณกำลังเริ่มต้นสร้างระบบเครือข่ายขึ้นมาใช้งานโดยมีจำนวนเครื่องคอมพิวเตอร์น้อยๆ ผมขอแนะนำให้คุณใช้ฮับขนาดเล็กนี้แหล่ะเพราะประหยัดเงินดี 


     ฮับขนาดเล็กแบบ 8 และ 16 พอร์ต RJ-45


     ฮับขนาดใหญ่ (Rack mount HUB)
     ฮับขนาดใหญ่หรือเรียกอีกอย่างว่า "แร็คเม้าส์ฮับ " มีขนาดความกว้าง 19 นิ้ว สามารถนำไปติดตั้งในตู้แร็คขนาดมาตรฐานได้ จำนวนพอร์ต RJ-45 ก็มากขึ้น มีตั้งแต่ 12,16,24 ถึง 48 พอร์ต ฮับประเภทนี้เหมาะสำหรับใช้งานในระบบเครือข่ายขนาดใหญ่ที่มีเครื่องคอมพิวเตอร์จำนวนมากประมาณ 12 เครื่องขึ้นไป ฮับขนาดใหญ่บางรุ่นจะมีพอร์ตไฟเบอร์ หรือมีสล๊อตใส่ไฟเบอร์มอดูล (Fiber Module) สำหรับใช้เชื่อมโยงอุปกรณ์ผ่านใยแก้วนำแสง

ฮับขนาดใหญ่แบบ 16 พอร์ต และ 24 พอร์ต RJ-45

ไฟเบอร์มอดูลแบบ ST และแบบ SC

ตู้ Rack ขนาดความกว้างมาตรฐาน 19 นิ้ว

     การทำงานของ HUP 
     Hub เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่กระจายสัญญาณในระบบเครือข่ายประเภทเดียวกันเท่านั้น ไม่สามารถเชื่อมต่อต่าง Protocol ได้ เป็นอุปกรณ์ศูนย์กลางในการนำคอมพิวเตอร์มาเชื่อมต่อกัน ฮับ หรือ รีพีทเตอร์ (Hub, Repeater) เป็นอุปกรณ์ที่ทวน และขยายสัญญาณ เพื่อส่งต่อไปยังอุปกรณ์อื่น ให้ได้ระยะทางที่ยาวไกลขึ้น ไม่มีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลก่อนและหลัง การรับ-ส่ง และไม่มีการใช้ซอฟต์แวร์ใดๆ มาเกี่ยวข้องกับอุปกรณ์ชนิดนี้ การติดตั้งจึงทำได้ง่าย ข้อเสียคือ ความเร็วในการส่งข้อมูล จะเฉลี่ยลดลงเท่ากันทุกเครื่อง เมื่อมีคอมพิวเตอร์มาเชื่อมต่อมากขึ้นฮับ(HuB)เป็นอุปกรณ์รวมสายของ 10BASE T ซึ่งมีรูปร่าง (Topology) แบบดาว (Star) โดยการทํางานภายในเป็นแบบบัสนั่นเอง HUB ถูกใช้ในงาน LAN เกือบจะทุกที่มีการติดตั้งระบบนี้ ราคามีตั้งแต่หลักพันบาทจนถึงเป็นแสน ฉะนั้นการเลือกจึงขึ้นอยู่กับงบประมาณ และความคงทนของอุปกรณ์ HUB ที่ไม่ดีมักจะทํ าให้การสื่อสารกับเครื่องอื่นมีปัญหา หรือที่เรียกง่าย ๆ ว่า อาการ“ฮับแฮ้ง” ปัจจุบันเทคโนโลยีด้านนี้รุดหน้าไปมาก ฮับดี ๆ หลายตัวที่เป็น ฮับอัจฉริยะ IntelligenceHUB หรือ Smart HUB) ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อสามารถควบคุมดูแลระบบเครือข่าย โดยมี Network Management Module เช่น SNMP Module และสามารถใช้กับทคโนโลยีรุ่นใหม่ได้เสมอเพียงแต่ซื้อ Interface Card มาเปลี่ยนเท่านั้น

     ฮับเป็นอุปกรณ์ที่ทำงานแบบไม่คิดอะไรมาก รับข้อมูลอะไรเข้ามาก็ส่งข้อมูลนั้นแพร่กระจาย (Broadcast) ออกไปยังทุกๆพอร์ตโดยไม่รู้จุดหมายปลายทางของผู้รับว่าอยู่ที่ใด ผู้ส่งจะส่งข้อมูลผ่านฮับไปยังผู้รับแบบแชร์เส้นทางกันหรือที่เรียกว่าเป็นการแชร์แบนด์วิดท์ (Bandwidth) นั้นเอง การจำลองการรับส่งข้อมูลบนระบบเครือข่ายที่เชื่อมโยงอุปกรณ์ต่างๆผ่านฮับ


PC1 ต้องการส่งข้อมูลไปยัง Server และ PC2 ต้องการส่งข้อมูลไปพิมพ์ยัง Network Printer
PC1 เริ่มส่งข้อมูลไปยัง Server ข้อมูลต่างๆที่ส่งออกมาจาก PC1 ถูกลำเลียงผ่านสายสัญญาณจนไปถึงฮับ

     เมื่อฮับรับข้อมูลเข้ามาแล้วก็จะส่งข้อมูลเหล่านั้นแพร่กระจายออกไปยังทุกพอร์ตที่ตนเองมีอยู่ ข้อมูลถูกลำเลียงผ่าน สายสัญญาณไปยังอุปกรณ์ทุกๆตัว
     
     Server ซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลก็จะได้รับข้อมูลที่ PC1 ส่งมาให้แล้วข้อมูลนำไปประมวลผล และในขณะเดียวกันนั้นอุปกรณ์ อื่นๆก็ได้รับข้อมูลนั้นด้วยเช่นกันแต่จะไม่นำข้อมูลไปประมวลผลเนื่องจากไม่ใช่ข้อมูลของตนเอง(ตรวจสอบจาก Mac Address ผู้รับใน Frame ข้อมูล)

     ขั้นตอนการส่งข้อมูลจาก PC2 ไปพิมพ์ยัง Network Printer จะทำในลักษณะเดียวกัน PC1 (แต่ต้องรอให้ PC1 ส่งข้อมูล เสร็จสิ้นก่อน)

     เมื่อฮับรับข้อมูลเข้ามาแล้วก็จะส่งข้อมูลเหล่านั้นแพร่กระจายออกไปยังทุกพอร์ตที่ตนเองมีอยู่ ข้อมูลถูกลำเลียงผ่าน สายสัญญาณไปยังอุปกรณ์ทุกๆตัว

     Network Printer ซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลก็จะได้รับข้อมูลที่ PC2 ส่งมาให้ จากนั้นก็จะนำข้อมูลไปพิมพ์

     

     การส่งข้อมูลของ PC1 และ PC2 จะต้องกระทำคนละเวลา ไม่สามารถส่งข้อมูลพร้อมกันในเวลาเดียวได้เสมือนกับว่าทั้งสองต้องอาศัยการแชร์เส้นทางสำหรับส่งข้อมูลไปยังผู้รับปลายทาง ดังนั้นระบบที่ใช้ฮับเป็นตัวกลางเชื่อมโยงอุปกรณ์ถ้ายิ่งมีเครื่อง คอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์มากเท่าไหร่ประสิทธิภาพของระบบก็จะยิ่งลดลงมาขึ้นเท่านั้น


     การเลือกซื้อฮับ
     ประการแรกคือจำนวนพอร์ตของฮับต้องมีเพียงพอสำหรับเชื่อมโยงอุปกรณ์ของคุณได้ทั้งหมด ยกตัวอย่างเช่นคุณมีเครื่องคอมพิวเตอร์จำนวน 5 เครื่อง คุณควรจะเลือกซื้อฮับที่มีจำนวนมากกว่า 5 พอร์ตขึ้นไปเช่นฮับ 8 พอร์ต หรือ 12 พอร์ต สาเหตุที่ควรซื้อฮับให้มีจำนวนพอร์ตมากว่าจำนวนอุปกรณ์ เนื่องจากพอร์ตที่เหลือคุณสามารถนำอุปกรณ์ใหม่มาเชื่อมโยงเพิ่มเติมได้ในอนาคตหรือหากเกิดกรณีพอร์ตที่ใช้งานเสีย คุณยังมีพอร์ตสำรองใช้ทดแทนได้อีก
ประการที่สองเรื่องความเร็วการรับส่งข้อมูลของฮับต้องสอดคล้องกับความเร็วการรับส่งข้อมูลของอุปกรณ์ เช่นอุปกรณ์ของคุณสามารถรับส่งข้อมูลได้ที่ความเร็ว 10 Mbps ฮับที่เลือกซื้อก็ต้องรองรับความเร็ว 10 Mbps หรือถ้าอุปกรณ์มีความเร็วรับส่งข้อมูลที่ 100 Mbps แน่นอนครับว่าฮับที่คุณเลือกซื้อก็จะต้องรองรับความเร็วที่ 100 Mbps ด้วยเช่นกัน

     ประการที่สามหากระยะทางเชื่อมโยงอุปกรณ์ไกลเกินว่า 100 เมตร เช่น 400-2,000 เมตร คุณต้องหันมาใช้การเชื่อมโยงอุปกรณ์ด้วยสายใยแก้นำแสง ดังนั้นฮับที่คุณเลือกซื้อจะต้องมีพอร์ตไฟเบอร์ หรือ ไฟเบอร์มอดูล สำหรับรองรับการเชื่อมต่อสายใยแก้วนำแสง (อุปกรณ์ปลายทางก็ต้องมีพอร์ตไฟเบอร์ หรือ ไฟเบอร์มอดูลสำหรับเชื่อมโยงเช่นกัน)

     หากคุณต้องการสร้างเครือข่ายที่อุปกรณ์ในระบบมีความเร็วรับส่งข้อมูล 10 Mbps และ 100 Mbps ทำงานร่วมกัน คุณจะต้องเลือกซื้อฮับแบบ Dual-Speed (10/100) สำหรับเชื่อมโยงอุปกรณ์ต่างๆเหล่านี้เข้าด้วยกัน

ที่มา http://noonamart-skella.blogspot.com/2009/07/hub-switches.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น